คณะผู้บริหารและคณะครูโรงเรียนอัตตาภิวัฒน์ได้ใช้เวลา 2 ปีก่อนเริ่มเปิดดำเนินการเรียนการสอนและยังคงทำอย่างต่อเนื่อง ในการสร้าง พัฒนาและบริหารหลักสูตรของโรงเรียนเพื่อให้เป็นหลักสูตรในบริบทไทยในระดับมาตรฐานโลกที่ทันสมัยอยู่เสมอ
ในการจัดทำและพัฒนาหลักสูตรของโรงเรียนฯ บนพื้นฐานของ "หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑" โรงเรียนฯ ได้นำเอาจุดเด่นของแหล่งความรู้มาตรฐานโลกต่างๆ มาผสมผสานเพื่อทำให้หลักสูตรมีความสมบูรณ์และคุณภาพทั้งในส่วนของเนื้อหาและกระบวนการจัดการเรียนการสอน เป็นการนำเข้า (import) ความรู้จากประเทศต้นแบบ เพื่อยกระดับมาตรฐานการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนฯ ทั้งนี้ เอกสาร แหล่งความรู้และข้อมูลหลักที่โรงเรียนฯ นำมาใช้พัฒนาหลักสูตรบนมาตรฐานและข้อกำหนดของกระทรวงศึกษาธิการได้แก่
โรงเรียนฯ ได้ปรับจำนวนรายวิชาที่คณะกรรมการการศึกษาพื้นฐาน กำหนดไว้ 9 วิชา เป็น 12 วิชา เพื่อความเหมาะสม นักเรียนได้เรียนรู้จริงในแต่ละ กลุ่มสาระ และได้เห็นการเชื่อมโยงกับวิชาอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน ทั้งนี้ โรงเรียนฯได้แยกกลุ่ม สาระการเรียนรู้รายวิชาต่อไปนี้
โรงเรียนฯ ได้ดำเนินการในการสร้างการเรียนรู้คุณภาพบนพื้นฐานของหลักสูตรแกนกลางการ ศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ในหลายด้านหลายประการ เพื่อให้เห็นภาพของการดำเนินการดังกล่าวชัดเจนยิ่งขึ้น จึงใคร่ยกตัวอย่างของการดำเนินการดังกล่าวบางประการ ดังต่อไปนี้
กลุ่มสาระวิชาคณิตศาสตร์ โรงเรียนอัตตาภิวัฒน์ ได้ตั้งเป้าหมายการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ของโรงเรียน ให้เป็นการจัดการเรียนรู้ระดับชั้นนำในมาตรฐานโลกที่ปรับแต่งให้สอดคล้องกับบริบทของไทย บรรยากาศในห้องเรียน เจตคติ ความมั่นใจและแรงบันดาลต่อการเรียนรู้คณิตศาสตร์ของเด็กนักเรียนอัตตาภิวัฒน์ ตลอดจนถึงผลการสอบที่ดีเยี่ยมในระดับประเทศและความสำเร็จในการเรียนในระดับมัธยมของนักเรียนที่จบไปแล้ว ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จสู่ เป้าหมายของโรงเรียนฯได้เป็นอย่างดี
การพัฒนาและการดำเนินการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สอดคล้องกับการจัดการในภาพรวมของโรงเรียนฯ ซึ่ง กลุ่มสาระฯ ได้ใช้ข้อกำหนดและมาตรฐานในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานปี ๒๕๕๑ เป็นเกณฑ์ขั้นตำ่ และได้นำเอา ปรัชญาและแนวทางการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ จากหลักสูตรและมาตรฐานคณิตศาสตร์ระดับโลกมาใช้ในการดำเนินการจัดการเรียนรู้ของโรงเรียนฯ การดำเนินการดังกล่าวได้สร้างความมั่นใจให้กับโรงเรียนฯ และตัวนักเรียนเอง ถึงศักยภาพและความสามารถด้านคณิตศาสตร์ของนักเรียนว่าครอบคลุมครบถ้วนทั้งในระดับประเทศและระดับมาตรฐานโลก แหล่งข้อมูลที่กลุ่มสาระฯ นำมาใช้นั้นมีมากมายหลายหลาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งแหล่งข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งองค์กรต่างๆ ได้นำเสนอและพิมพ์เผยแพร่องค์ความรู้ บทเรียน
โจทย์ปัญหา และกิจกรรมการเรียนรู้ ไว้อย่างมากมาย ซึ่งกลุ่มสาระฯ คณิตศาสตร์ โรงเรียนอัตตาภิวัฒน์ใคร่ถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณในความเปิดกว้างขององค์กรเหล่านี้มา ณ.ที่นี้ แหล่งความรู้และแหล่งข้อมูลหลักๆ ที่กลุ่มสาระฯ นำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาและจัดการเรียนรู้ของโรงเรียนฯ ได้แก่
ขอบเขตหลักสูตรคณิตศาสตร์ครอบคลุมสาระการเรียนรู้ต่างๆ เช่น จำนวนและการดำเนินการ เรขาคณิต ชั่งตวงวัด ข้อมูลและการวิเคราะห์ และโจทย์ปัญหา กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ โรงเรียนอัตตาภิวัฒน์ให้ความสำคัญกับวิธีการและแนวทางในการจัดการเรียนการสอนนอกเหนือไปจากเนื้อหาในสาระต่างๆ เหล่านี้ การจัดการกระบวนการเรียนรู้คณิตศาสตร์ของโรงเรียน เอาใจใส่กับประเด็นต่อไปนี้
การสอนตั้งต้นที่ความหมายของสิ่งที่จะเรียนก่อน แทนที่จะให้นักเรียนจดจำวิธีการ การเรียนแบบนี้ทำให้นักเรียนได้เข้าใจในเรื่องที่จะเรียนอย่างลึกซึ้ง ทำให้การเรียนรู้มีความหมายกับตัวนักเรียนเอง บ่อยครั้งที่นักเรียนจะพัฒนาวิธีการคิดคำนวณได้เองหลังจากที่ได้ทำความเข้าใจในคำจำกัดความ
นักเรียนเป็นจำนวนไม่น้อยที่เห็นว่าคณิตศาสตร์เป็นเรื่องยาก เพราะได้รับการเริ่มต้นสอนด้วยสัญลักษณ์ (ตัวเลข เครื่องหมาย) ซึ่งมีความเป็นนามธรรม เข้าใจได้ยาก ในปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาสื่อที่จับต้องได้ มีความเป็นรูปธรรม และนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในหลักสูตรมาตรฐานโลก โรงเรียนอัตตาภิวัฒน์ได้นำเอาวิธีการและแนวทางดังกล่าวนี้มาใช้ โดยได้จัดหาและจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ตั้งต้นจากสิ่งที่เป็นรูปธรรม ทำให้เด็กๆเรียนอย่างเข้าใจ สนุกสนานกับการเรียน และประสบผลสำเร็จในการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี และอย่างเต็มศักยภาพทุกคน
การเรียนรู้ในสถานการณ์ความเป็นจริง ช่วยให้นักเรียนสามารถนำเอาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตได้ดี สามารถประยุกต์ใช้ความรู้แก้ปัญหาได้ การเรียนการสอนคณิตศาสตร์ของโรงเรียนฯ ได้สอดแทรกการดำเนินการดังกล่าวอยู่เสมอ กรณีตัวอย่างที่เห็นได้อย่างเป็นรูปธรรมได้แก่ การให้นักเรียนชั้นประถม ๒ สำรวจความคิดเห็นโดยให้กลุ่มตัวอย่างได้ชิมอาหารจริง บันทึกจริง และนำข้อมูลจริงดังกล่าวมาใช้ในบทเรียนที่เกี่ยวข้องกันต่อไป
การจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ใช้แบบจำลองต่างๆ ที่หลายหลากเพื่อยกระดับการเรียนรู้ของเด็กให้ลึกซึ้งกว้างขวางและเห็นภาพในองค์รวมได้ดียิ่งขึ้น แบบจำลองดังกล่าวจะอยู่ในรูปของ ตาราง แบบรูป และแผนผัง
ตัวอย่าง
ในตอนเช้า แม่ค้ารายหนึ่งขายไข่ไก่ไปได้เท่ากับ 3/5 ของที่มีอยู่ ต่อมาในตอนบ่ายขายไปได้อีก 1/4 ของที่เหลือ ถ้าในตอนเช้าแม่ค้าขายไข่ไก่ได้มากกว่าในตอนบ่ายอยู่ 450 ฟอง ในตอนต้นแม่ค้ารายนี้มีไข่ไก่อยู่กี่ฟอง
วิธีใช้ Bar Model
การพัฒนาความรู้สึกทางจำนวนช่วยยกระดับความรู้ความเข้าใจและความหมายในการเรียนรู้คณิตศาสตร์ หลักสูตรคณิตศาสตร์ของโรงเรียนอัตตาภิวัฒน์พัฒนาความรู้สึกทางจำนวนให้กับนักเรียนใน 6 ด้าน คือ
การนำเอาสื่อทรัพยากรมาใช้สามารถช่วยยกระดับการเรียนรู้ของนักเรียนได้เป็นอย่างดีในทุกด้าน
ในกรณีของคณิตศาสตร์ นั้น สื่อในลักษณะที่เรียกว่า Manipulatives ช่วยทำให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรม สร้างความคล่องแคล่ว ไหลลื่นให้กับบทเรียน นักเรียนมีส่วนร่วมโดยตรงกับบทเรียน ทำให้บทเรียนมีความน่าสนใจ โรงเรียนอัตตาภิวัฒน์ได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ดังกล่าวในการทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น จึงได้ดำเนินการศึกษา จัดหาและจัดทำแผนการเรียนรู้ เพื่อนำเอาสื่อ Manipulatives มาใช้ร่วมในบทเรียนคณิตศาสตร์ของโรงเรียน
ย่อมเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า สูตรคูณเป็นหัวใจสำคัญอย่างหนึ่งของคณิตศาสตร์ อย่างไรก็ตามการเรียนรู้สูตรคูณโดยการท่องจำนั้นต้องอาศัยความอุตสาหะพยายาม ซึ่งทำให้นักเรียนส่วนหนึ่งเกิดความท้อ ยอมแพ้ ไม่สามารถ”รู้” สูตรคูณ ได้อย่างขึ้นใจ อีกส่วนหนึ่งก็ต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างยิ่ง กว่าจะ “รู้” สูตรคูณได้ต้องอาศัยเวลา ทำให้เสียเวลาและเสียโอกาสที่จะได้ต่อยอดความรู้ไประยะหนึ่ง และที่เป็นผลลบอย่างมากคือ ทำให้นักเรียนส่วนใหญ่ “เสียความรู้สึก” กับคณิตศาสตร์ ทำให้เกิดเจตคติที่ไม่ดีต่อคณิตศาสตร์ ว่าเป็นเรื่องยาก
โรงเรียนอัตตาภิวัฒน์ได้ตระหนักถึงประเด็นปัญหาอุปสรรคดังกล่าวข้างต้นเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่โรงเรียนฯ ได้ให้ความสำคัญ และดำเนินมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด คือ การสร้างให้นักเรียนเรียนรู้อย่างมีความสุข สนุกสนาน และประสบความสำเร็จในการเรียน
ในกรณีของสูตรคูณนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่โรงเรียนตั้งไว้ โรงเรียนฯ ได้ต่อยอดความคิดจากกระบวนการเรียนรู้มาตรฐานโลกดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น และนำมาผนวกสร้างกระบวนการคิดคำนวณ อย่างต่อเนื่องจากการบวกเลขหลักมาถึงการคูณและสูตรคูณ ด้วยกระบวนการเรียนรู้ที่โรงเรียนฯ ได้ออกแบบขึ้นนี้ สามารถทำให้นักเรียน “รู้” สูตรคูณอย่างลึกซึ้งด้วยในช่วงปลายปีชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ด้วยความสนุกสนานโดยไม่ต้องใช้วิธีท่องจำ ทำให้เด็กๆ เกิดแรงบันดาลใจและเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ และที่สำคัญอย่างยิ่งก็คือ การ “รู้” สูตรคูณของเด็กนี้ ครอบคลุมไปถึงความเข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนต่างๆ ความสัมพันธ์ระหว่างการบวกและการคูณ และความหมายของการคูณ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเรียนรู้ในระดับต่อไป
การเรียนรู้แบบบันไดเวียน เป็นการจัดการเรียนรู้จากง่ายไปหายากในแต่ละสาระหรือหัวข้อ โดยให้นักเรียนได้มีโอกาสเรียนรู้ในทุกหัวข้อในทุกชั้นปี แทนที่จะเรียนจบเป็นเรื่องๆ ในแต่ละปี การจัดการเรียนรู้ลักษณะนี้สร้างความสำเร็จในการเรียนรู้ให้กับนักเรียนเป็นอย่างมาก นอกเหนือจากคณิตศาสตร์แล้ว โรงเรียนอัตตาภิวัฒน์ได้นำเอาการจัดการเรียนรู้แบบนี้มาใช้กับทุกกลุ่มสาระรายวิชา ผลก็คือนักเรียนได้มีโอกาสพัฒนาตนเอง ได้ทบทวนและยกระดับความคิด ความรู้ความเข้าใจ ทักษะและความคล่องแคล่ว ในทุกเรื่อง
“งานที่มอบหมายที่ต้องการให้ทำให้เสร็จในห้องเรียนหรือที่บ้านควรจะต้อง ยกระดับความเข้าใจ ทักษะและความคล่องแคล่วด้านคณิตศาสตร์ให้กับนักเรียน และพึงระมัดระวังให้แน่ใจว่างานที่มอบหมายเป็นส่วนเพิ่มเติมที่มีความหมายของแนวคิดที่สอนในห้องเรียน การคำนวณที่ซ้ำซากหรืองานการบ้านอื่นที่คล้ายกันมักจะยับยั้งความสร้างสรรค์ ความรักในคณิตศาสตร์และความปรารถนาที่จะต่อยอดการเรียนรู้ของนักเรียน งานที่มอบหมายควรที่จะพัฒนาระดับความคิดที่สูงขึ้นโดยจัดโครงสร้างในรูปแบบการแก้ปัญหาเพื่อให้นักเรียนได้มีโอกาสได้ประยุกต์ความคิดทางคณิตศาสตร์ที่ได้เรียน”
— Saskatchewan Education, Canada
ด้วยพื้นฐานการจัดการเรียนรู้ดังกล่าวข้างต้นทำให้ โรงเรียนอัตตาภิวัฒน์มีโอกาสได้ศึกษา และคัดสรรโจทย์ปัญหาจำนวนมากจากแหล่งหลายหลากที่มีคุณภาพเพื่อยกระดับการเรียนรู้ของนักเรียน นอกจากนี้แล้ว โรงเรียนฯ ยังได้พัฒนาโจทย์ปัญหาเฉพาะด้านเพื่อให้นักเรียนได้ฝึกฝน ประยุกต์พื้นฐานความรู้ผนวกกับเทคนิคการแก้โจทย์ปัญหาต่างลักษณะ แหล่งความรู้สำคัญในการพัฒนาโจทย์ปัญหาของโรงเรียนได้แก่ โจทย์ปัญหาเฉพาะด้านของหลักสูตรประเทศสิงคโปร์ โจทย์ปัญหาเพื่อพัฒนาทักษะและกระบวนการคิด Innovative Maths ของ CIMT มหาวิยาลัยพลีมัธและมหาวิทยาลัยเอ็กซีเทอร์ สหราชอาณาจักร และตำราเรียนของสำนักพิมพ์ Harcourt ประเทศสหรัฐอเมริกา
จากการดำเนินการจัดการเรียนการสอนดังกล่าวข้างต้น ทำให้นักเรียนในโรงเรียนฯ ทุกคนประสบผลสำเร็จในการเรียนรู้คณิตศาสตร์ตามที่โรงเรียนฯ ตั้งเป้าหมายไว้เป็นอย่างดียิ่ง สิ่งที่คุณครูและผู้ปกครองทุกคนเห็นได้ทันทีคือนักเรียนทุกคนมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ มีความตื่นตัว เกิดแรงบันดาลใจ เรียนด้วยความกระหายใคร่รู้ ไม่จำกัดของเขตการเรียนรู้ของตน พัฒนาตนเองไปสู่การเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างธรรมชาติ ในขณะเดียวกันนักเรียนอัตตาภิวัฒน์ทุกรุ่นสามารถทำคะแนนเฉลี่ยในการสอบระดับชาติ (O-net) อย่างโดดเด่น อยู่ระดับดีเยี่ยมมาโดยตลอด
แม้ว่าการดำเนินการเพื่อการจัดการเรียนรู้ในระดับมาตรฐานโลก ต้องอาศัยความมุ่งมั่น ตั้งใจ ความคิด และทรัพยากรสนับสนุนเป็นอย่างมาก ผลที่เกิดขึ้นดังที่ได้กล่าวในเบื้องต้นนับได้ว่าคุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งไปกว่านั้นด้วยพื้นฐานการเรียนรู้ระดับมาตรฐานโลกที่โรงเรียนฯ พัฒนาขึ้นประกอบกับเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเตอร์เน็ต ยังทำให้โรงเรียนฯ สามารถปรับแต่ง พัฒนาการจัดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ก้าวทันการจัดการศึกษาคุณภาพทั่วโลกอยู่เสมอ Websites ที่เผยแพร่ในอินเตอร์เน็ตนับเป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญอย่างหนึ่ง เราสามารถค้นหา Websites คุณภาพที่สนับสนุนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในลักษณะต่างๆ ได้มากมายหลายหลาก แทบจะกล่าวได้ว่าเราน่าจะหารูปแบบการสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ได้ทุกรูปแบบเท่าที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น แนวคิด ปรัชญา หลักสูตร แนวทางการจัดการเรียนรู้ แผนการเรียนรู้ สื่อ หรือกิจกรรมการเรียนรู้ในรูปของ Virtual manipulatives ตัวอย่างแหล่งอ้างอิง Websites เพื่อสืบค้น หรือนำมาใช้พัฒนาการเรียนรู้ให้กับเด็ก มีดังต่อไปนี้
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์สำหรับผู้เรียน คือ การเรียนรู้จากประสบการณ์ ปรากฏการณ์ เหตุการณ์ วัตถุ สิ่งมีชีวิต และสิ่งต่างๆในโลกรอบตัว ซึ่งเป็นโอกาสที่จะทำให้ผู้เรียนได้ค้นพบกับคำตอบของทุกปรากฏการณ์ด้วยตัวเอง โดยมุ่งหวังให้ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ ประสบการณ์เข้ากับกระบวนการคิดทางวิทยาศาสตร์ได้ ผ่านการทดลอง การสร้างแบบจำลอง ผนวกกับการคิดเชิงวิพากษ์ และสร้างสรรค์ นอกจากนั้น การเรียนรู้และเข้าใจวิทยาศาสตร์ยังนำไปสู่การค้นพบว่าวิทยาศาสตร์เป็นปัจจัยพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการสร้างและใช้เทคโนโลยี ซึ่งนำไปสู่ความเจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆ เช่น อุตสาหกรรม การแพทย์ รวมไปถึงการยกระดับคุณภาพชีวิต
กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ โรงเรียนอัตตาภิวัฒน์ ได้ตั้งเป้าหมายและดำเนินการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างเต็มศักยภาพทั้งในเชิงลึกและเชิงกว้าง โดยมีการจัดทำหลักสูตรเป็นของตนเอง ซึ่งใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เป็นพื้นฐาน และได้นำเอาแนวทางการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามมาตรฐานโลกมาใช้ โดยปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมและสอดคล้องกับการเรียนการสอนของไทย เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้และทักษะทางวิทยาศาสตร์อย่างสูงสุด ทัดเทียมในระดับโลก ตลอดจนถึงการนำสื่อการเรียนการสอนที่หลากหลายมาใช้ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้เรียนได้สืบเสาะหาความรู้ด้วยตนเอง การปฏิบัติกิจกรรมการทดลองที่ให้ผู้เรียนได้ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ รวมไปถึงการทำโจทย์และแบบฝึกหัดที่ครอบคลุมในทุกเนื้อหา การดำเนินการจัดการเรียนรู้ข้างต้น ทางโรงเรียนฯ ได้นำข้อมูล สื่อ จากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆมาประยุกต์ใช้อย่างกว้างขวาง เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความรักในการเรียนวิทยาศาสตร์ และพัฒนาความสามารถและทักษะทางการเรียนต่อไป
แบ่งเนื้อหาบทเรียน เป็นวิทยาศาสตร์แต่ละสาขาอย่างชัดเจน โดยได้แบ่งเนื้อหาบทเรียนวิทยาศาสตร์ออกเป็น 3 สาขา ได้แก่ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ วิทยาศาสตร์โลก และวิทยาศาสตร์กายภาพ เพื่อให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบและพัฒนาทักษะ และกระบวนการคิดอย่างเป็นลำดับขั้นตอน เพื่อเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในระดับสูงต่อไป เนื้อหาในการเรียนวิทยาศาสตร์ในแต่ละสาขามีดังต่อไปนี้
ผู้เรียนวิทยาศาสตร์ในทุกระดับชั้นได้เรียนเนื้อหาวิทยาศาสตร์ในเรื่องเดียวกัน แต่มีการจัดการเรียนรู้จากง่ายไปหายากในแต่ละบทเรียนทุกชั้นปี โดยการจัดการเรียนรู้ในลักษณะนี้มีส่วนในการส่งเสริมประสิทธิภาพการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ให้กับผู้เรียนเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้เรียนได้มีโอกาสทบทวนความรู้และความเข้าใจในบทเรียน รวมถึงต่อยอด และยกระดับความรู้ในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งทำให้นักเรียนได้ใช้ความคิดและทักษะในระดับที่สูงขึ้นเช่นกัน
ในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์การได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรม และการทดลองที่เชื่อมโยงกับเนื้อหาที่เรียนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำผู้เรียนไปสู่การพัฒนาตนเองให้เป็นผู้เรียนวิทยาศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จ โดยกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนอัตตาภิวัฒน์ได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างหลายหลาก เพื่อให้นักเรียนได้มีการสืบเสาะหาความรู้ ใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และวิธีทางวิทยาศาสตร์ ได้ฝึกทักษะการคิดและการทำกิจกรรมกลุ่ม รวมทั้งได้ฝึกใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์พื้นฐานได้อย่างคล่องแคล่ว
ตัวอย่างกิจกรรมวิทยาศาสตร์
ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คือสื่อที่ใช้ในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ การใช้สื่อที่ดีและมีความหลากหลายเป็นส่วนช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ ช่วยให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาสาระที่เรียนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เสริมสร้างให้ผู้เรียนได้ใช้ทักษะกระบวนการคิด รวมถึงทำให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีทางการเรียน สื่อที่ใช้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนอัตตาภิวัฒน์มีความหลายหลากซึ่งถูกนำมาปรับใช้ให้เหมาะกับบทเรียนในแต่ละเรื่องเพื่อให้นักเรียนได้ใช้ประโยชน์จากสื่อในการเรียนรู้ให้ได้มากที่สุด
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนอัตตาภิวัฒน์ ได้ใช้หนังสือและเอกสารการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์อย่างหลายหลาก และมีการจัดทำเอกสารตำราเรียนเป็นของโรงเรียนในส่วนของคู่มือปฏิบัติการ และแบบฝึกหัดเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับเนื้อหาในแต่ละบทเรียนอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีโจทย์และแบบฝึกหัดเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกทำโจทย์หลายรูปแบบ หลากหลายวิธีคิด และแหล่งที่มา
ส่วนหนึ่งของกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะด้านต่างๆของผู้เรียนคือกิจกรรมเรียนรู้คือความสุข โดยได้นำวิทยาศาสตร์มาบูรณาการเข้ากับกิจกรรมดังกล่าว ได้แก่ กิจกรรมเรียนรู้ผ่านเรื่องเล่า เรียนรู้ด้วยโครงงาน และเรียนรู้นอกห้องเรียน ซึ่งในแต่ละกิจกรรมได้เชื่อมโยงความรู้ ทักษะกระบวนการ และหลักการทางวิทยาศาสตร์ให้กลมกลืนสอดคล้องเข้ากับเนื้อหาและจุดมุ่งหมายของกิจกรรมนั้นๆ
เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้เรื่องราวรอบตัวอย่างกว้างขวาง วิทยาศาสตร์ได้เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการเปิดโลกกว้างให้กับนักเรียนผ่านมุมมอง และเรื่องราวที่แตกต่างไปจากการเรียนรู้ในชั้นเรียนโดยมีครูเป็นผู้นำเสนอและถ่ายทอดผ่านสื่อในรูปแบบต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความรักในการเรียนรู้ และกระตุ้นความสนใจในการเรียน
ตัวอย่างกิจกรรมเรียนรู้ผ่านเรื่องเล่า
ในปีการศึกษา 2554 ประจำทุกวันอังคาร นักเรียนจะได้เรียนรู้ทุกเรื่องราวเกี่ยวกับร่างกายของตนเองผ่านสื่อวีดิทัศน์เรื่อง นิทานชีวิต
เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนได้ดำเนินกิจกรรมตลอดทั้งปีการศึกษา โดยในทุกปีการศึกษาที่ผ่านมา ได้นำเอาวิทยาศาสตร์มาบูรณาการกับหัวข้อโครงงานอย่างกว้างขวาง ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ปีการศึกษา 2551
โครงงานมหัศจรรย์ใต้ท้องทะเล เรียนรู้ทุกเรื่องราวเกี่ยวกับท้องทะเล โดยนำเอาวิทยาศาสตร์มาบูรณาการ ในหัวข้อต่อไปนี้
ปีการศึกษา 2552
โครงงานมหัศจรรย์พรรณพฤกษา เรียนรู้หลากหลายเรื่องราวเกี่ยวกับพืช ในหัวข้อต่อไปนี้ ชนิดและประเภทของพืช ส่วนประกอบและหน้าที่ การเจริญเติบโต การขยายพันธุ์พืช และประโยชน์ของพืช
ตัวอย่างกิจกรรมโครงงานมหัศจรรย์พรรณพฤกษา ได้แก่ สร้างต้นไม้แห่งการจำแนกชนิดของพืช ปลูกพืชเพื่อศึกษาสิ่งจำเป็นที่พืชต้องการ ทดลองขยายพันธุ์พืช ทดสอบแป้งในพืช เส้นใบของพืช การคายน้ำของพืช สัณฐานวิทยาของพืช เป็นต้น กิจกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นนั้น จะมีทั้งรูปแบบของการทดลอง และการสร้างชิ้นงานด้วยตัวนักเรียนเอง
ปีการศึกษา 2554
โครงงานชีวีปรีดา...ชีวาน่าชื่นชม ได้นำวิทยาศาสตร์มาบูรณาการในส่วนของหัวข้อต่อไปนี้คือ ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ ซึ่งนักเรียนจะได้รู้จุดเริ่มต้นของชีวิต การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม หัวข้อต่อมาคือ มหัศจรรย์ร่างกายของเรา นักเรียนจะได้เรียนรู้และทำกิจกรรมเพื่อศึกษาถึงความมหัศจรรย์ของร่างกายมนุษย์ และหัวข้ออร่อยดีมีประโยชน์ ในหัวข้อนี้จะศึกษาเกี่ยวกับความสำคัญของอาหารที่มีต่อมนุษย์ ซึ่งส่งผลอย่างมากกับสุขภาพของมนุษย์ และระบบการทำงานต่างๆ ภายในร่างกาย
ทุกโครงงานและทุกหัวข้อที่นักเรียนได้ศึกษาเรียนรู้ และทำกิจกรรม ทำให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงที่นำเอาวิทยาศาสตร์มาบูรณาการ เสริมสร้างความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่เดิม และพัฒนาทักษะการคิด และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ร่วมด้วย ซึ่งเป็นผลดีต่อการพัฒนาศักยภาพทางการเรียนรู้ของนักเรียนต่อไป
— แหล่งอ้างอิง Website ที่สามารถสืบค้นเพื่อเป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีในโลกยุคปัจจุบัน ทำให้ผู้คนในชาติต่างๆ ใกล้ชิดกัน และติดต่อสื่อสารกันมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการท่องเที่ยว การดำเนินธุรกิจ หรือกิจกรรมอื่นๆ ภาษานับเป็นสื่อกลางสำคัญเพื่อการติดต่อสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ภาษาอังกฤษนับได้ว่าเป็นภาษาที่สำคัญที่สุดภาษาหนึ่งของโลก ภาษาอังกฤษเป็นภาษาเดียวที่สามารถเชื่อมโยงโลกทั้งใบเข้าไว้ด้วยกันอย่างแท้จริง ในขณะที่ภาษาอื่นๆมีความสำคัญในการสื่อสารระดับท้องถิ่นและในฐานะที่เป็นวัฒนธรรมของชาติ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่เราสามารถใช้ได้แทบจะทุกที่ในโลก เนื่องจากในแต่ละท้องถิ่น อย่างน้อยจะมีคนส่วนหนึ่งที่เข้าใจภาษาอังกฤษ
นอกจากนี้แล้ว ในยุคของสังคมแห่งการเรียนรู้ อินเตอร์เนตนับเป็นแหล่งความรู้สำคัญ เป็นหน้าต่างที่ช่วยเราในการสืบค้น ศึกษาหาความรู้ได้อย่างกว้างขวางอย่างไม่มีขีดจำกัด ทั้งนี้ภาษาอังกฤษก็ยังคงเป็นภาษาหลักในการใช้งานอินเทอร์เนต กล่าวได้ว่าเราสามารถหาข้อมูลทุกอย่างได้จากเว็บไซต์ภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษจึงนับเป็นสื่อกลางสำคัญเพื่อให้เข้าถึงคลังความรู้ขนาดใหญ่ของโลกได้
โรงเรียนอัตตาภิวัฒน์จัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ เพื่อพัฒนานักเรียนให้เกิดความมั่นใจและเชื่อมั่นในตนเองในการนำเอาภาษาอังกฤษไปใช้งาน ให้นักเรียนเกิดความรักและกระหายใคร่รู้ มีความสุขกับ การอ่าน เขียน ฟังและพูดภาษาอังกฤษ ให้นักเรียนมีทักษะและเจตคติที่ดีต่อภาษาอังกฤษ เพื่อนำไปต่อยอดใช้ในชีวิตประจำวัน และการเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นในโรงเรียนทั้งในและต่างประเทศ
การจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษของโรงเรียนอัตตาภิวัฒน์ ได้ใช้ข้อกำหนด และมาตรฐานในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เป็นเกณฑ์ขั้นต่ำ โดยอาศัยแนวทางการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างชาติ (English as a Foreign Language : EFL) ในหลักสูตรมาตรฐานโลกเป็นแกนหลักในการพัฒนาเป็นหลักสูตรของโรงเรียน การจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยทีมคณะครูกลุ่มสาระภาษาอังกฤษที่มีทั้งครูไทยและครูต่างประเทศเจ้าของภาษา จะเริ่มต้นตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1 และพัฒนาอย่างต่อเนื่องถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
การดำเนินการเรียนการสอนภาษาอังกฤษมุ่งเน้นการทำงานเป็นทีมของกลุ่มครูประจำสาระทั้งครูไทยและครูต่างชาติเจ้าของภาษา เพื่อสอดประสานจุดเด่นของคุณครูแต่ละท่านในการพัฒนานักเรียนสู่เป้าหมายของโรงเรียนให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมดีที่สุด บทเรียนภาษาอังกฤษของโรงเรียนจะอยู่บนพื้นฐานของการใช้ธีม (Theme) ซึ่งทำให้นักเรียนได้เห็นตัวอย่างหลากหลายที่ใช้ในชีวิตจริงของประโยคหรือรูปไวยากรณ์ในแต่ละลักษณะ เพื่อนำมาสู่หลักภาษาของรูปประโยคนั้นๆ ในขณะที่นักเรียนจะมีโอกาสได้ทำกิจกรรมเพื่อฝึกฟังและฝึกพูดกับคุณครูต่างชาติเจ้าของภาษา
สมาชิกของกลุ่มสาระภาษาอังกฤษจะทำงานประสานกันอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ขั้นวางแผนจนถึงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในระหว่างวันที่ดำเนินการเรียนการสอน โดยที่คุณครูไทยจะรับผิดชอบในด้านหลักภาษา ซึ่งครอบคลุมถึง หลักการออกสียง (phonics) หลักไวยากรณ์ (grammar and structure) หลักการเขียน (writing) ตลอดจนถึงหลักการอ่านเพื่อสร้างความเข้าใจ (reading and comprehension) ในขณะที่ครูต่างชาติเจ้าของภาษาจะรับผิดชอบในด้านการพัฒนาทักษะการฟังและการพูด
ถึงแม้ว่าจะได้มีการแบ่งขอบเขตความรับผิดชอบอย่างเด่นชัด สมาชิกในกลุ่มสาระภาษาอังกฤษทุกท่านต่างเห็นและตระหนักถึงคุณค่าในการทำงานร่วมกันเป็นทีมเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างดีที่สุดให้กับนักเรียนทุกคน ในการดำเนินการเรียนการสอนนั้น คณะครูไทยและครูต่างชาติจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันอยู่เสมอ เพราะคุณครูทุกท่านทราบดีว่าบ่อยครั้งที่ ในขอบเขตความรับผิดชอบของตนนั้นคาบเกี่ยวกับสมาชิกครูท่านอื่น ตัวอย่างเช่น นักเรียนจะฝึกการฟังและการพูดกับครูต่างชาติได้ดีโดยอาศัยพื้นฐานหลักการออกเสียง (phonics) ที่ได้เรียนรู้มาจากคุณครูไทย ในทำนองเดียวกันการฝึกพูดหรือฟังนั้นก็จำต้องอาศัยคำศัพท์ (vocabulary) ซึ่งได้เรียนรู้จากคุณครูไทยและ/หรือได้รับการต่อยอดเพิ่มเติมจากครูต่างชาติ และต้องอาศัยหลักไวยากรณ์เพื่อทำความเข้าใจในสิ่งที่ได้ฟังหรือพูด ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินการเรียนการสอนเป็นไปอย่างราบรื่น มีความสอดคล้องกัน และก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในการเรียนรู้อย่างดีที่สุด บทเรียนของคุณครูไทยและครูต่างชาตินั้นจะใช้ธีมเดียวกันคู่ขนานกันไป
หัวข้อเรื่องและประโยคที่ใช้ในแต่ละธีม (Theme) สำหรับบทเรียนในแต่ละช้ันตั้งแต่อนุบาล 1 จนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ได้ถูกจัดเรียงลำดับเพื่อพัฒนาการเรียนรู้จากง่ายและสลับซับซ้อนขึ้นไปตามลำดับ และให้มีความสอดคล้องกับลำดับการเรียนรู้ไวยากรณ์ โครงสร้างของธีมในการจัดการเรียนรู้ของโรงเรียนเป็นดังนี้
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 |
||
THEME |
Words |
Grammar |
1. What’s this? |
School things |
What’s this? It’s a pen. |
2. Playtime! |
Toys |
my / your Is this your teddy? Yes, it is. No, it isn’t. |
3. This is my nose! |
My body |
arm / arms This is ... These are ... |
4. He’s a hero! |
Jobs |
She’s / He’s a teacher. Is she / he a teacher. Yes, she is. No, he isn’t. |
5. Where’s the ball? |
The park |
Where’s the ball? in / on / under |
6. Billy’s Teddy |
My family |
Possessive (’s) |
7. Are these his trousers? |
My clothes |
This is her / his T-shirt. Are these his socks? Yes, they are. No, they aren’t. |
8. Where’s Grandma? |
My house |
Is she in the kitchen? Yes, she is. No, she isn’t. Where are dad and Billy? Are they in the garden? No, they aren’t. |
9. Lunchtime! |
My lunch box |
I’ve got two sandwiches. I haven’t got my lunch box. an apple (an + a, e, i, o, u) |
10. A new friend! |
My friends |
He / She’s got ... He / She hasn’t got ... It’s got ... It hasn’t got ... |
11. I like monkeys! |
The zoo |
I like monkeys. I don’t like elephants. They’re big. I’m little. |
12. Dinnertime! |
Food / Drinks |
Do you like carrots? Yes, I do. No, I don’t. What do you like? I like yogurt. |
13. Tidy up! |
My bedroom |
There’s ... There are ... |
14. Action Boy can run! |
Verbs |
He can / can’t fly. Can he talk? Yes, he can. No, he can’t. |
15. Let’s play ball! |
The beach |
Let’s + verb |
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 |
||
THEME |
Words |
Grammar |
1. Our new things |
School things |
This / That is ... These / Those are ... |
2. They’re happy now! |
Feelings |
We’re / They’re Are they ...? |
3. I can ride a bike! |
Outdoor activities |
She can / can’t ... Can he ...?
Prepositions of Place |
4. Have you got a milkshake? |
Food |
Have you got ...? I have / haven’t ... Has he got ...? He has / hasn’t ... |
5. We’ve got English! |
School subjects School rooms |
What / When have we got ...? We’ve got ... our / their |
6. Let’s play after school! |
After-school activities |
I visit ... I don’t have ... |
7. Let’s buy presents! |
Special days |
What does he like? He likes / doesn’t like ... |
8. What’s the time? |
Everyday activities Times of the day |
What’s the time? It’s ... o’clock. He ... at ... o’clock. |
9. Where does she work? |
Places |
Where does he work? He works in a ... Does she work in a ...? |
10. It’s hot today! |
Weather Weather activities |
What’s the weather like? it’s ... Put on / Don’t put on ... |
11. What are you wearing? |
Clothes Time |
Present continuous : What are you wearing? What’s he wearing? I’m / He’s wearing ... |
12. You’re sleeping! |
Celebrations Getting ready |
Present continuous : What are you / they doing? I’m / We’re / They’re ... What’s he / she doing? He’s / She’s ... |
13. Look at all the animals! |
Farm animals Adjectives |
Comparatives : This cow is bigger than that cow. |
14. Look at the photos! |
Memories Tidying up |
Past simple : I was / wasn’t ... You were / weren’t ... |
15. Well done! |
People Ordinal numbers |
Past simple : There were some / weren’t any ... Irregular plurals |
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 |
||
THEME |
Words |
Grammar |
1. They’re from Australia! |
Countries Seasons Home |
Present simple: be Where are you from? I’m from Egypt. |
2. My weekend |
Hobbies |
like + verb + ing I like reading. I don’t like fishing. Does he like playing chess? Yes, he does. No, he doesn’t. |
3. My things |
My things phrasal verbs Collections |
your / our / their That’s their CD player. Can for permission / requests Can I use your computer? Yes, you can. / No, you can’t. |
4. We’re having fun at the beach! |
Water sports Adjectives to describe places |
Present continuous: affirmative and negative I’m swimming. She isn’t snorkeling. |
5. A naughty monkey! |
Zoo animals Adjective to describe emotions and things |
Present continuous: questions and short answers Is the crocodile eating the sandwich? Yes, it is. / No, it isn’t. |
6. Jim’s day |
Daily routine Time words |
Present simple: affirmative. negative and questions I have breakfast at eight o’clock. Do they live in a big house? Yes, they do./ No, they don’t. |
7. Places to go! |
Places in town Performances |
Present simple and adverbs of frequency: always, sometimes, never I sometimes go to the library.
Prepositions of time My birthday is in May. |
8. I’d like a melon! |
Food |
Countable and uncountable nouns a / an / some I’d like a melon. Would you like some cereal? Yes, please. / No, thanks. |
9. What’s the fastest animal in the world? |
Describing places |
Comparative adjectives Russia is bigger than the UK. Superlative adjectives The highest mountain in the world is Mount Everest. |
10. In the park! |
In the park Verbs |
must / mustn’t for rules and obligations You must turn off your mobile phone. You mustn’t walk on the grass |
11. In the museum |
Transport Prepositions |
Past simple with be: affirmative and negative There was / wasn’t a park in our town fifty years ago.
lots of, some, any There were / weren’t some trains a hundred years ago.
Time words and phrases |
12. A clever baby! |
Adjectives to describe People |
Past simple with be and have affirmative and negative I wasn’t tall when I was five. You were happy on holiday. I had a maths lesson last week. |
13. The Ancient Egyptians |
Verbs Adjectives to describe things |
Past simple with regular verbs affirmative and negative They lived 5,000 years ago. They didn’t cook pizza. |
14. Did you have a good day at school? |
School things Camping things |
Past simple questions Did you have a good day? Yes, I did. / No, I didn’t. Wh- questions: what / when / where What did you watch last night? A film. |
15. Our holiday! |
Holiday things Time words |
be going to + verb He’s going to play basketball tomorrow. Are you going to swim in the sea? Yes, I am. / No, I’m not. |
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 |
||
THEME |
Words |
Grammar |
1. The food here is great! |
The restaurant
Words in context: breakfast time |
Present simple and present continuous They usually wears blue uniforms. They’re wearing white today.
Time markers: present simple and continuous
|
2. We had a concert |
The concert
Words in context: ‘Festival Day’ |
Past simple: have and be All our friends were there. Past simple: regular verbs The audience clapped. Time markers: past simple
|
3. The dinosaur museum |
The dinosaur museum
Words in context: dinosaur data |
Past simple: irregular verbs with negatives we didn’t go to school. Past simple: irregular verbs with questions Did they go to a museum? What did you see?
|
4. Whose jacket is this? |
Sports time
Words in context: basketball |
Possessive pronouns Whose jackets is it? It’s mine / yours / his / hers / its / ours / theirs. Adverbs: +ly and irregular He ran slowly. He played well. |
5. Go back to the roundabout |
Directions
Words in context: shadow puppets |
have to / had to We have to go back to the roundabout. Giving directions Go straight on at the roundabout. why / because Why are we at this petrol station? Because ... |
6. The best bed! |
Describing words
Words in context: ‘The Ant and the Grasshopper’ |
Comparatives and superlatives: long adjectives My bed is more comfortable than this one. Irregular comparatives and superlatives better than / worse than / the best / the worst |
7. Will it really happen? |
In space
Words in context: Life in 100 years’ time |
The future with will People will travel in super- fast planes. Will they go back to England? Time markers: the future |
8. How much time have we got? |
At the airport
Words in context: My holiday |
Expressing quantity How much time have we got? We haven’t got much money. some / any Have you got any newspaper? |
9. Something new to watch! |
Audio-visual entertainment
Words in context: TV programmes |
Infinitive of purpose I turned on the TV to watch sports. We went in the boat to see the dolphins. How often ...? I watch TV once/twice a week. |
10. I’ve printed my homework |
Computers
Words in context: sending emails |
Present perfect: affirmative He’s put the books on the shelves. Present perfect: questions, answers and negatives Have you seen my new speakers? Yes, I have./ No, I haven’t.
|
11. Have you ever been ...? |
Places
Words in context: The Amazing Escape |
Present perfect: ever Have you ever been to space? Yes, I have./ No, I haven’t. Present perfect: never We’ve never fallen in the mountains.
|
12. What’s the matter? |
Illness
Words in context: how to stay healthy |
should / shouldn’t You should drink some water. You shouldn’t eat lots of cake. could / couldn’t Max couldn’t eat his dinner. But he could eat lots of cakes. |
13. Can you help me? |
Making smoothies
Words in context: child heroes |
Object pronouns me / you / him / her / it / us / them Relative pronouns This is the boy who didn’t put the lid on. This is the smoothie which was in the blender. |
14. We were fishing |
Family
Words in context: ‘My relatives are coming!’ |
Past continuous What were you doing? I was looking at photos. Dates and I was born ... My mum was born in 1981. |
15. Good news, bad news |
Jobs
Words in context: ‘Three wishes’ |
Past simple and past continuous When I was working, the phone rang. Grammar homophones: there / they’re / their There is good news. |
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 |
||
THEME |
Words |
Grammar |
1. You can build it! |
Tools
subject verb object adjectives and adverbs
My tree house |
Present perfect: ever / never Have you ever cleaned a kitchen? I’ve never made a cake.
Present perfect: for / since Ben has had woodwork lessons since he was eight. He’s worked on this wooden table for two weeks. |
2. It’s show time! |
Putting on a play
The Crown Diamond
|
Past simple and present perfect It was great! I’ve tidied up all the leaves.
already / yet / before / just I’ve already built the set. I haven’t learnt the script yet. I haven’t been in a play before. Karen has just finished the costumes. |
3. The best party ever! |
Household items
Lost at the carnival |
Comparatives and superlatives as ... as ... It’s as colourful as the carnival in Rio. not as ... as ... It’s not as big as the carnival in Rio. too / enough It’s too dark now. There’s not enough light in here. |
4. Our planet |
The environment
An eco home |
Past simple and past continuous: interrupted actions Some children were playing when we arrived.
Used to There used to be lots of litter here. |
5. Reuse and recycle |
Recycling
As good as new |
Will / won’t Now Chip will know how to do everything and he won’t make mistakes.
Present continuous with future meaning We’re leaving at two o’clock. |
6. Crazy about wildlife! |
At the wildlife park
Gorilla Kingdom |
Going to: future plans and intentions My class is going to adopt a tiger. Going to: predictings It’s going to fall. |
7. Call an ambulance! |
First aid
A day in the life of a firefighter |
Reported speech He said he needed some bandages. said / told Our teacher told us she had a surprise for us. She said we were going to learn first aid. Reported speech: time markers |
8. Let’s eat healthily |
Food
The healthy eating pyramid |
First conditional If I press this button, the machine will make a pizza.
First conditional questions Will I get ill if I don’t eat fruit and vegetables? |
9. The big match |
Sport
Antonyms
Just breathe |
Modal verbs: may, might and could I might need to do more work on those boots.
have to / had to statements and questions Do you have to exercise every day? We had to tidy our bedrooms before we could go out to play yesterday. |
10. Ancient buildings |
Archaeology
The lost city |
Indefinite pronouns There are machines everywhere. There is something wrong with all my inventions. Is there anything wrong?
Question tags These necklaces are beautiful, aren’t they?
|
11. A message for the future |
A time capsule
Homonyms
A kid in King Arthur’s Court |
The passive (present simple) English is spoken in many different countries.
Passive and active People in costumes greet visitors. Visitors are greeted by people in costumes. |
12. Be a part of history! |
The news
Adjectives with -ing
Who deserves a high salary? |
The passive (past simple) You were invented to cook and clean.
Passive question Is English spoken in the USA? Who was the telephone invented by? |
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 |
||
THEME |
Words |
Grammar |
1. Art project? |
Describing art
Prefixes un- / im-
Island Adventure |
Going to and will I’m going to visit an art gallery this afternoon. I’ll come with you.
Present continuous with future meaning We’re meeting at 10 o’clock. |
2. Sports adventures! |
Extreme sports
Prefixes dis- / in-
Tanya Streeter |
First conditional and first conditional questions If the weather is good, we’ll go paragliding. Will you come for a walk if the weather is good?
Second conditional If I had a camera, I’d take a picture. |
3. It’s festival time! |
Festival adjectives
suffix -ous
Top Ten Food Festivals |
Present perfect: for / since / already / just / yet / before I’ve been here since 9 o’clock / for five days. The procession has already / just finished. I haven’t seen any fireworks yet. I’ve never eaten anything so delicious before.
Past simple and present perfect I went to that festival last year. I’ve made my costume. |
|
Forms of transport
Phrasal verbs
Transport around the world |
Present perfect continuous 1 Passengers have been waiting for five hours.
Time markers for / since / all morning / all day / all week
Present perfect continuous 2 I’m tired because I’ve been working. What have you been doing? Have you been swimming? |
5. The greatest inventions! |
Inventions
Suffix -ment
The History of the Pen |
The passive (present simple and past simple) Many kinds of chewing gum are made. The gum wasn’t advertised.
The passive (present continuous) My computer is being repaired at the moment. |
6. You’ve won a computer! |
Computer verbs
Homonyms
Computers - Fun Facts |
The passive (future) You will be given ten new laptops.
The passive (present perfect) There wires have been disconnected. |
7. Explorers for a day! |
Exploring
Suffixes -er / -ist
Famous Shipwrecks |
Relative pronouns: who, which There are many climbers who successfully climb Mount Everest. They climb a mountain there which is the highest mountain in the world.
Reported pronouns: that He met a man that was more than 120 years old. |
8. It’s a mystery! |
Mystery
Suffix -able
The Nazca Lines |
Past perfect After they had climbed onto the ship, they saw there was on one there.
Past perfect questions and negative sentences Had people invented truck and trains before they built the Pyramids? They hadn’t invented trucks and trains before they built the Pyramids. |
9. Survival! |
Survival items
Homophones
Robinson Crusoe |
Third conditional If the machine had worked, he would have been happy.
Modal verbs: have to, must, should and ought to You have to bring a water bottle. You mustn’t leave the group. You shouldn’t bring valuable possessions. You ought to bring a camera. |
10. Around the world! |
World languages
Suffix -ery
Languages of the world |
Reported speech (all tenses)
Reflexive pronouns: myself, yourself, itself, himself, herself, ourselves, yourselves and themselves |
11. Space travel! |
Space
Phrasal verbs
Dreaming in a spaceship |
Reported speech: Wh- questions Where, Why, What, Who and When He asked him where he was.
Reported speech: commands and requests told / asked He told us to turn off our mobile phones. He asked them to leave quietly. |
12. Holiday time! |
Holiday adjectives
My year around the world |
wish
Question tags |
นอกจากนั้น ในหลักสูตรของโรงเรียนมีการนำภาษาอังกฤษไปบูรณาการร่วมกับสาระการเรียนรู้อื่นๆอีก เช่น ในวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา คอมพิวเตอร์ และศิลปะ โดยนักเรียนจะได้รู้จักคำศัพท์ภาษาอังกฤษในบริบทที่หลากหลายของสาระต่างๆ
ในแต่ละปี นักเรียนจะมีการเรียนวิชาโครงงาน ซึ่งเป็นการเรียนรู้แบบบูรณาการข้ามสาระ โดยจะมีการกำหนดธีมของโรงเรียน เช่น มหัศจรรย์ใต้ท้องทะเล มหัศจรรย์พรรณพฤกษา มหัศจรรย์โลกใบเล็ก ในโครงงานจะมีการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย โดยทุกๆปี นักเรียนจะกระตือรือล้น ตื่นเต้นกับการเรียนรู้เรื่องราวใหม่ๆที่น่าสนใจ ซึ่งภาษาอังกฤษก็จะประกอบเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมเหล่านั้น
และที่สำคัญ ในปีการศึกษา 2555 โรงเรียนจะจัดให้มีกิจกรรม Read to Learn ซึ่งจะเป็นกิจกรรมที่นักเรียนจะได้เรียนรู้การอ่านเพื่อพัฒนาทักษะในการอ่านเพื่อการเรียนรู้ด้านต่างๆ ดังนี้
โดยนักเรียนจะเรียนรู้ผ่านการทำกิจกรรมกับ บทความ หนังสือ ที่หลากหลายทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อสร้างให้นักเรียนเกิดทักษะในการอ่านเพื่อการเรียนรู้ การพัฒนาเพื่อเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับสังคมปัจจุบันที่มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
ผลสำเร็จของนักเรียนรุ่นที่ผ่านๆมาเป็นความภาคภูมิใจหนึ่งของโรงเรียนฯ โดยนักเรียนโรงเรียนอัตตาภิวัฒน์สามารถทำคะแนนการสอบวัดระดับ O-Net ได้เป็นที่หนึ่งของจังหวัดมาโดยตลอด นอกจากนั้นยังได้รับรางวัลจากการแข่งขันภาษาอังกฤษในเวทีต่างๆอยู่เสมอ ทั้งยังมีความพร้อมในการเรียนต่อในระดับมัธยม โดยนักเรียนมักผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนมัธยมชื่อดัง และมีผลการเรียนที่น่าชื่นชม
นอกเหนือไปจากความสำเร็จด้านวิชาการแล้ว นักเรียนยังแสดงให้เห็นถึงทักษะการใช้ภาษาในชีวิตจริง โดยเห็นได้จากตัวอย่างนักเรียนที่ได้ไปเรียนและทัศนศึกษาภาคฤดูร้อนกับโรงเรียนที่ประเทศสิงคโปร์ นักเรียนสามารถใช้ภาษาอังกฤษเพื่อสื่อสารในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี เช่น การสั่งอาหาร การซื้อสินค้า และการเดินทาง รวมไปถึงการทำความเข้าใจกับภาษาอังกฤษเพื่อการเรียนรู้ตามแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เช่น สวนสัตว์ ศูนย์วิทยาศาสตร์ และพิพิธภัณฑ์
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนอัตตาภิวัฒน์ จัดการเรียนรู้โดยเน้นความสำคัญของภาษาในฐานะที่เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันก่อให้เกิดความเป็นเอกภาพและเสริมสร้างบุคลิกของคนในชาติให้มีความเป็นไทย เป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสาร แสวงหาความรู้ และประสบการณ์ จากแหล่งข้อมูลสารสนเทศต่างๆ เพื่อพัฒนาความรู้ ความคิดวิเคราะห์ วิจารณ์ และสร้างสรรค์ อย่างมีสุนทรียภาพ การเรียนรู้ด้านภาษาไทยของโรงเรียนจึงให้น้ำหนักและความสำคัญในส่วนของการอ่านและการพัฒนากระบวนการคิดที่เป็นระบบให้กับนักเรียน
โรงเรียนได้ออกแบบจัดทำหลักสูตรภาษาไทยเป็นของตนเอง โดยใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เป็นพื้นฐาน มีการนำเอาเอกสารตำราเรียน ภาษาพาที และ วรรณคดีลำนำ ตามข้อกำหนดของกระทรวงฯมาให้นักเรียนได้ใช้เรียน โดยมีเป้าหมายเพื่อความครบถ้วนตามหลักสูตรขั้นพื้นฐานและการพัฒนาความสามารถด้าน คำศัพท์ ให้แก่นักเรียน
การสะสมคำศัพท์
ในส่วนของ คำศัพท์ โรงเรียนกำหนดให้นักเรียนใช้ แบบฝึกทักษะการเขียนและการสะกดคำ ของศูนย์ส่งเสริมวิชาการ เนื่องจากพิจารณาแล้วพบว่า มีการรวบรวมคำศัพท์จากหนังสือ ภาษาพาที และ วรรณคดีลำนำ ซึ่งเป็นหนังสือเรียนภาษาไทยที่จัดทำขึ้นโดยกระทรวงศึกษาธิการ ไว้เป็นจำนวนมาก และยังมีแบบฝึกหัดที่เหมาะสมสำหรับการฝึกเขียนคำอย่างหลากหลาย ทั้งนี้ โรงเรียนได้กำหนดให้นักเรียนได้เรียนรู้เรื่องราวพื้นฐานจากหนังสือเรียนภาษาพาทีและวรรณคดีลำนำของกระทรวงศึกษาธิการด้วยเช่นเดียวกัน
หลักและการใช้ภาษา
โรงเรียนมีแบบฝึกหัดเพื่อให้นักเรียนได้ฝึกฝนด้านหลักภาษาโดยตรง รวมทั้งแบบฝึกหัดการใช้ภาษา และ แบบฝึกการเขียน ซึ่งทางโรงเรียนได้จัดทำขึ้นเองจากหลักสูตรของโรงเรียนผนวกกับการวิจัยค้นคว้ารวบรวมจากหนังสือทุกสำนักพิมพ์ที่มีขายอยู่ในร้านหนังสือในปัจจุบัน จึงมั่นใจได้ว่า เนื้อหาหลักและการใช้ภาษาของโรงเรียนอัตตาภิวัฒน์ไม่เพียงแต่จะสอดคล้องกับหลักสูตรภาคบังคับของกระทรวงฯ แต่ยังมีความครอบคลุมในเนื้อหา (แนวกว้าง) ที่มากกว่าและลึกซึ้งในรายละเอียด (แนวลึก) มากกว่า
วรรณคดีและวรรณกรรมไทย
โรงเรียนตระหนักดีถึงคุณค่าและอรรถรสทางสุนทรียภาพที่นักเรียนควรจะได้รับจากการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมไทยในแต่ละชั้นปีนักเรียนไม่ควรถูกจำกัดประสบการณ์การเรียนรู้อยู่แต่เพียงวรรณกรรมหรือวรรณคดีไทยเพียงเรื่องหนึ่งเรื่องใด แต่ควรที่จะได้มีโอกาสรับรู้และสัมผัสคุณค่าในส่วนนี้อย่างกว้างขวาง โรงเรียนจึงได้จัดทำหนังสือ “กานท์กวี” เพื่อรวบรวมบทกวีและคำประพันธ์ตามบทบังคับของกระทรวงศึกษาธิการ ตลอดจนบทร้อยกรองที่มีคุณค่าทางวรรณกรรมซึ่งมีความงดงามทางภาษาและฉันทลักษณ์ มีเนื้อหาที่เหมาะสมกับวัยของนักเรียน เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกอ่านและฝึกท่อง เพื่อที่นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสุนทรียภาพทางภาษา และเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยและวรรณคดีไทยไปพร้อมๆกัน
การใช้ห้องสมุด
โรงเรียนได้จัดกิจกรรม หนอนน้อยนักอ่าน โดยความร่วมมือกับ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ชวนน้องอ่าน (The Pizza Company Book Club) เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านและเห็นคุณค่าของหนังสือ และมีกิจกรรมฝึกให้นักเรียนเขียนบันทึกจากการอ่าน โดยมีพิซซ่าแจกฟรีและเกียรติบัตรเพื่อเป็นกำลังให้แก่นักเรียนที่สามารถอ่านหนังสือได้ตามเป้าหมาย ทั้งนี้ โรงเรียนได้ให้การสนับสนุนในการจัดหาหนังสือใหม่ๆที่มีคุณค่าน่าอ่านและเหมาะสำหรับนักเรียนจำนวนหลายพันเล่มจัดไว้ทั้งภายในและภายนอกห้องสมุดอย่างต่อเนื่องทุกปี
การอ่านจัดเป็นพื้นฐานสำคัญของทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ โรงเรียนได้จัดทำเอกสารตำราเรียนเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนในชื่อ หนังสือเรียน “เพลินภาษา” บทเรียนบูรณาการเพื่อพัฒนาทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ
หนังสือนี้เป็นผลมาจากการที่โรงเรียนได้พยายามสืบเสาะค้นหาแนวทางที่จะพัฒนากระบวนการเรียนรู้ด้านภาษาและการคิดให้กับตัวนักเรียน โดยได้แปลและเรียบเรียงจาก “Best Practices in Reading” Level A ของสำนักพิมพ์ Options Publishing Inc. ประเทศสหรัฐอเมริกา และ “Keep on Reading!” Level B–F ของสำนักพิมพ์ Peoples Publishing Group ประเทศสหรัฐอเมริกา
หนังสือเพลินภาษานี้ใช้ฝึกทักษะทางภาษาให้แก่นักเรียนโดยผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ที่หลายหลากและมีลักษณะปฏิสัมพันธ์ (Interactive) อย่างต่อเนื่องระหว่างครูและนักเรียน และระหว่างตัวนักเรียนเองอยู่ตลอดเวลา ช่วยฝึกฝนนักเรียนทั้งด้านการอ่านและการคิดไปพร้อมๆกัน โดยผ่านเรื่องราวที่หลากหลาย ทั้งเรื่องแนว Fiction/Non-fiction , Science , Social Studies และ Math ในลักษณะรูปแบบของ Theme เพื่อให้นักเรียนได้เห็นถึงการเชื่อมโยง
บทเรียนเหล่านี้ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาของนักเรียนในด้านต่างๆ ได้แก่ การหาความคิดหลักและรายละเอียดของเรื่อง (Main idea and Details) การจัดลำดับเรื่องราวตามลำดับเหตุการณ์ (Sequence) การเปรียบเทียบและการแยกแยะความแตกต่าง (Compare and Contrast) การหาข้อสรุปของเรื่อง (Summarize) การลงความเห็น (Make inferences) ข้อเท็จจริงและความคิดเห็น (Fact and Opinion) มูลเหตุและผลลัพธ์ (Cause and Effect) ปัญหาและคำตอบ (Problem and Solutions) และบทสรุป โดยผ่านกระบวนการเรียนการสอนที่เริ่มต้นจากการฝึกทักษะการอ่านหรือการฟัง นำไปสู่การฝึกคิด มีการทำแบบทดสอบความเข้าใจจากการอ่าน ฝึกการจัดระบบความคิด ฝึกการสรุปเรื่องราว และฝึกทักษะการเขียน ทั้งรายบุคคลและเป็นทีม
ตั้งแต่ปีการศึกษา 2551 เป็นต้นมา หนังสือชุดนี้ได้ถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของตำราเรียนภาษาไทยในระดับประถมศึกษา ในปัจจุบันครูผู้สอนยังได้ยกระดับการเรียนรู้ให้สูงขึ้นไปอีกโดยการสร้างเสริมด้วยแหล่งเรียนรู้ในอินเทอร์เน็ต โดยนำมาประกอบกระบวนการเรียนรู้ด้วยสื่อทัศนูปกรณ์ในด้านการนำเสนอด้วยรูปภาพ ผลสะท้อนจากการนำหนังสือชุดนี้มาใช้พบว่า สามารถพัฒนาทักษะกระบวนการคิด การอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนได้อย่างดีเยี่ยม
หนังสือ “เพลินภาษา” ถูกจัดเป็นธีม โดยที่แต่ละธีมถูกออกแบบเพื่อพัฒนาทักษะแต่ละด้านและประกอบด้วยบทเรียนย่อยในต่างๆ ลักษณะ ได้แก่ เรื่องเล่า เรื่องเล่าเค้าโครงความจริง เรื่องด้านวิทยาศาสตร์ เรื่องด้านสังคมศึกษา เรื่องด้านคณิตศาสตร์ และบททั่วไป ของธีมนั้นๆ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ทักษะการอ่าน | บทที่ 1 | บทที่ 2 | บทที่ 3 | บทที่ 4 | บทที่ 5 | บทที่ 6 | บทที่ 7 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
เรื่องเล่า | บ้านสี | บ่อน้ำหายไปไหน | วิลลี่กับถุงมือเบสบอล | แมลงเต่าทอง มีจุดสีดำได้อย่างไร | วอลรัสอารมณ์บูด | แข่งว่าว | สัตว์เลี้ยง ของห้องเรียน |
เรื่องเค้าโครงความจริง | สี | น้ำทุกหนแห่ง | ที่พำนักสัตว์ | แมลงและแมงมุมที่ช่วยดูแลสวน | นากทะเล | วันพิเศษทั่วโลก | บ้านในขวดโหล |
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2-6
ทักษะการอ่าน | Theme สำหรับการเรียนรู้ | ||||
---|---|---|---|---|---|
ป. 2 | ป. 3 | ป. 4 | ป. 5 | ป. 6 | |
แยกแยะเรื่องเล่าจาก เรื่องเค้าโครงความจริง | ดวงจันทร์ | - | - | - | - |
ความคิดหลักและรายละเอียด | รถแทรกเตอร์ | ชีวิตในทะเล | ชีวิตในทะเลทราย | ชีวิตป่า | สะวันนา |
การจัดลำดับ | ข้าวโพด | ป่าเร็ดวู้ด | การไต่เขา | การเปลี่ยนรูปแบบ | เงิน เงิน ทอง ทอง |
การเปรียบเทียบและ การแสดงความแตกต่าง | แมลง | บ้านอัจฉริยะ | ถ้ำ | การขับเคลื่อนประชากร | หน้าที่การงาน |
บทสรุป | จีน | ยอดกีฬา | สิ่งประดิษฐ์ | การสื่อสารของสัตว์ | หินจากอวกาศ |
การหาข้อสรุป / การลงความเห็น | ม้า | ความลี้ลับของไดโนเสาร์ | การสำรวจดาวอังคาร | ชีวิตในอาณานิคม | โลกลี้ลับ |
ข้อเท็จจริงและความคิดเห็น | แม่น้ำ | เฮอร์ริเคน | ทอร์นาโด | แผ่นดินไหว | ภูเขาไฟ |
ปัญหาและคำตอบ | สัตว์เลี้ยง | ขยะล้นเมือง | สุนัขงาน | สำรวจใต้น้ำ | สะพาน |
นอกเหนือจากกิจกรรมการอ่านเพื่อพัฒนาการคิดและการเรียนรู้ในห้องเรียนแล้ว นักเรียนยังได้มีโอกาสฝึกเขียนฝึกคิด เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านด้วยกิจกรรมท้าทายและน่าสนใจที่หลายหลาก
ทักษะการอ่าน | กิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน | |||
---|---|---|---|---|
แยกแยะเรื่องเล่า จากเรื่องเค้าโครงความจริง |
|
|
|
|
ความคิดหลักและรายละเอียด |
|
|
|
|
การจัดลำดับ |
|
|
|
|
การเรปรียบเทียบและการแสดงความแตกต่าง |
|
|
|
|
บทสรุป |
|
|
|
|
การสรุป/การลงความเห็น |
|
|
|
|
บทสรุป |
|
|
|
|
ข้อเท็จจริงและความคิดเห็น |
|
|
|
|
บทสรุป |
|
|
|
|
มูลเหตุและผลลัพธ์ |
|
|
|
|
บทสรุป |
|
|
|
|
ปัญหาและคำตอบ |
|
|
|
|
เป็นกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เพื่อให้นักเรียนประยุกต์ใช้ความรู้ภาษาไทยในหลากหลายแง่มุมที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน กิจกรรมต่างๆ ได้แก่
กิจกรรมเรียนรู้คือความสุขคือกลุ่มกิจกรรมที่โรงเรียนได้จัดขึ้นเป็นพิเศษเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ในหลักสูตร ประกอบด้วย กิจกรรมเรียนรู้ผ่านเรื่องเล่า เรียนรู้ด้วยการคิด เรียนรู้ด้วยโครงงาน และเรียนรู้นอกห้องเรียน ซึ่งได้มีการบูรณาการสาระการเรียนรู้ภาษาไทยเข้าไว้ในกลุ่มกิจกรรมดังกล่าวนี้ ดังต่อไปนี้
เป็นการเริ่มต้นการเรียนรู้ของนักเรียนในแต่ละวันด้วยการรับรู้เรื่องราวต่างๆที่น่าสนใจและเหมาะกับวัยของนักเรียน ซึ่งคุณครูจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเล่าเรื่อง (ประกอบภาพ/กิจกรรม) เกี่ยวกับเหตุการณ์ ประวัติศาสตร์ บุคคล สิ่งของ และอื่นๆ เพื่อเปิดโลกทัศน์การเรียนรู้ของนักเรียนไปสู่ขอบเขตที่กว้างขวางขึ้น นับตั้งแต่ปีการศึกษา 2551 เป็นต้นมา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมนี้อย่างเป็นรูปธรรม ในเรื่องเล่าหัวข้อต่างๆ ดังต่อไปนี้
ปีการศึกษา 2551 | ปีการศึกษา 2552 | ปีการศึกษา 2553 |
เมื่อคุณตาคุณยายยังเด็ก | นิทานไทย (วรรณคดีเรื่องต่างๆ) | นิทานไทย (นิทานพื้นบ้าน) |
สำหรับปีการศึกษา 2554 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยได้เล่าเรื่องเล่า เรื่อง รามเกียรติ์
เป็นกิจกรรมปลายเปิดเพื่อพัฒนากระบวนการคิดของนักเรียนในด้านต่างๆ ทั้งที่อยู่ในและนอกเหนือหลักสูตร โดยกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมนี้ในหัวข้อ หรรษาภาษาไทย ในทุกๆ วันศุกร์
เป็นกิจกรรมที่ใช้การดำเนินการที่หลายหลากเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียนอย่างเป็นกระบวนการ ในกิจกรรมนี้นักเรียนจะได้มีโอกาสฝึก/พัฒนากระบวนการคิดและกระบวนการทำงานในหัวข้อที่นักเรียนสนใจและเลือกเองภายใต้ Theme ที่กำหนด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยได้เข้ามามีบทบาทในกิจกรรมนี้โดยใช้ทักษะภาษาด้านต่างๆ ทั้งการฟัง (เรื่องเล่า การบรรยาย วิทยากร) การพูด (นำเสนองาน ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ แสดงความคิดเห็น) การอ่าน (การอ่านหนังสือ การอ่าน internet) และการเขียน ทั้งโดยตรงและโดยอ้อมในหลายกิจกรรม ดังต่อไปนี้
ปีการศึกษา 2551 โครงงานมหัศจรรย์ใต้ท้องทะเล (Miracle of the Sea)
เป็นโครงงานในแนววิทยาศาสตร์ ซึ่งบูรณาการภาษาไทยเข้าไปโดยกิจกรรมดังนี้
ปีการศึกษา 2552 โครงงานมหัศจรรย์พรรณพฤกษา (Miracle of Plant)
เป็นโครงงานในแนววิทยาศาสตร์ ซึ่งบูรณาการภาษาไทยเข้าไปโดยกิจกรรมดังนี้
ปีการศึกษา 2553 โครงงานมหัศจรรย์โลกใบเล็ก (It ’s a Small Wonderful World)
เป็นโครงงานในแนวสังคมศาสตร์ ซึ่งบูรณาการภาษาไทยเข้าไปโดยกิจกรรมดังนี้
ปีการศึกษา 2554 โครงงานชีวีปรีดา...ชีวาน่าชื่นชม (It ’s a Beautiful Life)
เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของนักเรียน ซึ่งบูรณาการภาษาไทยเข้าไปในหัวข้อการเรียนรู้ “หนูเป็นคนไทย (I Am Thai) โดยนักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความเป็นไทยอย่างครบถ้วนทุกแง่มุม ทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม อาหาร และการดำเนินชีวิต
เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างหลากหลายในโลกรอบตัวจากสถานที่จริง ซึ่งจะก่อให้เกิดความรู้ ทัศนคติ และโลกทัศน์ ในการเรียนรู้ที่มีความหมายให้กับนักเรียนได้อย่างมาก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยได้บูรณาการในกิจกรรมนี้โดยการนำนักเรียนไปเรียนรู้ในสถานที่ต่างๆที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้
ปีการศึกษา 2550 หัวข้อ วัฒนธรรมที่หลายหลาก (Culture Tours)
ปีการศึกษา 2553 หัวข้อมหัศจรรย์โลกใบเล็ก (It ’s a Small Wonderful World)
ปีการศึกษา 2554 หัวข้อชีวีปรีดา...ชีวาน่าชื่นชม (It ’s a Beautiful Life)
นอกจากวิชาแกนหลักที่ทางโรงเรียนอัตตาภิวัฒน์ได้มุ่งเน้นแล้ว กิจกรรมเสริมการเรียนรู้นั้นก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพื่อให้การเรียนรู้ควบคู่ไปกับความสุขสนุกสนาน ทางโรงเรียนได้แบ่งจัดกิจกรรมตามการเสริมสร้างในด้านต่างๆ ดังนี้
นับเป็นโอกาสดีสำหรับเด็กๆ ในยุคนี้ ที่ได้เกิดมาในยุคสังคมแห่งการเรียนรู้ การเข้าถึงแหล่งความรู้ทำได้หลายวิธีและสะดวกอย่างมาก ซึ่งเปรียบเทียบไม่ได้เลยกับโลกในยุคเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว ซึ่งดูเหมือนว่าห้องสมุดจะเป็นแหล่งเรียนรู้เพียงแห่งเดียวและห้องสมุดก็มัก จะมีแหล่งข้อมูลอย่างจำกัดเป็นอย่างมาก
แหล่งข้อมูลที่เด็กๆ สามารถเข้าถึงได้ น่าสนใจและเหมาะสมกับวัย แต่ไม่ได้บรรจุอยู่ในหลักสูตรยังมีอยู่มากมาย “เรียนรู้คือความสุข” เป็นกิจกรรมมีรูปแบบการดำเนินกิจกรรมหลายหลากที่น่าสนุก ชวนติดตามและเปิดโลกทัศน์การเรียนรู้ให้กับเด็กๆ กิจกรรม “เรียนรู้คือความสุข” ได้ให้อะไรมากมายหลายอย่างกับนักเรียนที่โรงเรียนฯ
เด็กทุกคนล้วนมีความใฝ่รู้ และมีความสุขกับการได้ฟัง ได้ชม เพลิดเพลิน เข้ามีส่วนร่วม และเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์การเรียนรู้ในกิจกรรมเรื่องเล่าที่หลายหลาก ประเภทของเรื่องเล่าที่เด็กชอบที่จะฟังมีอยู่มากมายเช่น นิทาน ตำนาน ชีวิตสัตว์ประวัติศาสตร์ เรื่องเกี่ยวกับบุคคล เรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ สถานที่ที่น่าสนใจ เรื่องลี้ลับ ฯลฯ
กิจกรรมเรียนรู้ผ่านเรื่องเล่าจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่สอดคล้องกับลักษณะของนักเรียนดังกล่าวข้างต้น และพัฒนานักเรียนในหลายด้าน:
เราสามารถเลือกสรรหาธีมหรือหัวข้อเรื่องเล่าที่เหมาะสมกับความสนใจของนักเรียนได้มากมาย ต่อไปนี้เป็นบางตัวอย่างของเรื่องเล่าที่โรงเรียนฯ นำมาใช้ในช่วงระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา
อาณาจักรอียิปต์โบราณ
โลกลี้ลับ
สารคดีชีวิตสัตว์สถานที่สำคัญของโลก
บุคคลประวัติศาสตร์
ข่าวรอบตัว |
อาณาจักรกรีซโบราณ
สาธารณรัฐและอาณาจักรโรมัน
เมืองสำคัญของโลก
เอกลักษณ์ไทย
เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน
|
แม้ว่าในห้องเรียน นักเรียนจะได้รับการพัฒนาการคิดอยู่ตลอดเวลา แต่ก็เป็นการดำเนินการที่ผสมผสานไปกับเนื้อหาในกรอบของหลักสูตรโรงเรียนฯ โรงเรียนฯจึงได้พัฒนากิจกรรมเรียนรู้ด้วยการคิดขึ้นโดยใช้เวลาโฮมรูมวันละประมาณ30 นาทีหลังกิจกรรมเรียนรู้ผ่านเรื่องเล่า กิจกรรมดังกล่าวนี้เป็นกิจกรรมปลายเปิดเพื่อพัฒนากระบวนการคิดในด้านต่างๆ ทั้งที่อยู่ในและนอกเหนือหลักสูตร โดยจัดแบ่งหัวข้อตามวันดังนี้
ในช่วงเวลาดังกล่าวนักเรียนจะได้มี โอกาสทำใบงานที่ท่าทายความคิดในด้านต่างๆ ร่วมกัน ดังตัวอย่างต่อไปนี้
เรียนรู้รอบทิศ |
|
ภาษาอังกฤษแสนสุข |
|
สนุกคิดคณิตศาสตร์ |
|
ฉลาดพหุปัญญา |
|
หรรษาภาษาไทย |
การเรียนรู้ด้วยโครงงาน สร้างแรงบันดาลใจ ความสำเร็จและพลัง ให้กับนักเรียน ได้โดย
การจัดการเรียนรู้ด้วยโครงงานเพื่อให้สอดคล้องและเป็นลำดับตามข้อกำหนดและมาตรฐานการเรียนรู้อย่างสมบูรณ์ เป็นงานที่ยากมากหรือเป็นไปไม่ได้เลย และยังไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนที่แสดงถึงว่าสถานศึกษาใดสามารถสัมฤทธิ์ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังได้ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ด้วยโครงงานเท่านั้น อนึ่งในหลักสูตรของโรงเรียนอัตตาภิวัฒน์ การเรียนรู้ด้วยโครงงานนับเป็นองค์ประกอบสำคัญหนึ่งในการพัฒนานักเรียน (ใช้เวลา 80 คาบต่อปีการศึกษา ในเวลาเรียนทั้งหมดประมาณ 1500 คาบเรียนในหนึ่งปีการศึกษา)
2551: มหัศจรรย์ใต้ท้องทะเล (Miracle of the Sea)
2552: มหัศจรรย์พรรณพฤกษา (Miracle of Plants)
2553: มหัศจรรย์โลกใบเล็ก (It’s a Small Wonderful World)
2554: ชีวีปรีดา...ชีวาน่าชื่นชม (It’s a Beautiful Life)
2555: จักรวาล (Universe)
2556: สัตว์โลกผู้น่ารัก
กิจกรรมเรียนรู้นอกห้องเรียน เป็นกิจกรรมสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ของโรงเรียนฯ เพื่อให้นักเรียนได้มีโอกาสสัมผัสกับแหล่งเรียนรู้จริง และยังเป็นโอกาสที่ครูและนักเรียนได้ทำกิจกรรมร่วมกันนอกโรงเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางเที่ยวปิดท้าย จะเป็นการพักแรมเป็นเวลา 1 คืน ในการเดินทางเพื่อเรียนรู้นอกห้องเรียนทุกครั้ง จะแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มเล็ก กลุ่มละ 10-15 คน ประกอบกับการเตรียมการล่วงหน้า ทำให้การทำกิจกรรมเรียนรู้นอกห้องเรียนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นักเรียนเกือบไม่ต้องเดินเรียงแถวหรือยืนรอนานซึ่งทำให้เสียบรรยากาศและโอกาสเรียนรู้ คุณครูแต่ละกลุ่มจะมีข้อมูลและมีความพร้อมในการดูแลนักเรียนเพื่อการเรียนรู้ดังกล่าว
การจัดการเรียนรู้นอกโรงเรียน ของโรงเรียนอัตตาภิวัฒน์จะดำเนินไปอย่างมีระบบและมี 3 ขั้นตอนคือ
นอกเหนือจากเหตุผลของการเตรียมการแล้ว โรงเรียนฯ ได้จัดแหล่งเรียนรู้ในแต่ละปี ให้สอดคล้องกับธีมของ “เรียนรู้คือความสุข” ทำให้กิจกรรมนี้มีความหมายต่อนักเรียนมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างของแหล่งเรียนรู้ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาเป็นดังนี้
แหล่งเรียนรู้ชุมชนเป็นแหล่งความรู้ที่มีคุณค่าอีกลักษณะหนึ่งสำหรับกิจกรรม “เรียนรู้นอกห้องเรียน” โรงเรียนฯ ได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อให้นักเรียนได้สัมผัสและเรียนรู้ถึงการทำงานของแหล่งชุมชนต่างๆ หรือเรียนรู้เกี่ยวกับสถานท่ีสำคัญของจังหวัดสมุทรสาคร เช่น อนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งทรงมีพระกรุณามหาธิคุณจัดตั้งสุขาภิบาลหัวเมืองแห่งแรกของประเทศไทยที่ตำบลท่าฉลอมและถูกพัฒนาต่อมาเป็นเทศบาล ศาลเจ้าพันท้ายนรสิงห์ โรงพยาบาลบ้านแพ้วซึ่งเป็นองค์การมหาชนที่มีชื่อเสียงของประเทศ ศูนย์วิทยาศาสตร์ สมุทรสาคร สำนักงานไปรษณีย์ ศูนย์ 3 วัย ศูนย์เบญจรงค์ พื้นที่ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวมหาชัย
เมื่อพูดถึงการเรียนการสอนเกี่ยวกับการอ่าน วิชาที่เราจะคิดถึงทันทีได้แก่ วิชาภาษาไทยและ/หรือวิชาภาษาอังกฤษ และโดยส่วนใหญ่แล้ว เรามักจะคิดว่าก็มีอยู่เพียงสองวิชานี้เท่านั้น ที่เกี่ยวข้องกับการอ่าน แท้ที่จริงแล้วการเรียนการสอนในวิชาทางภาษาส่วนใหญ่ เป็นการพัฒนาความสามารถให้อ่านได้ ให้เข้าใจในหลักภาษา (Learn to Read) เพื่อนำเอาความสามารถเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์เพื่ออ่านได้เป็น สามารถคิดวิเคราะห์เนื้อความที่อ่าน ในแง่มุมต่างๆ ในการพอกพูนความรู้ความเข้าใจได้ (Read to Learn)
การจัดการเรียนรู้ “อ่านเพื่อเรียนรู้ (Read to Learn)” นี้ เป็นกิจกรรมหนึ่งที่โรงเรียนฯ ได้ริเริ่มและกำลังดำเนินการอยู่ในวิชาภาษาไทย โดยโรงเรียนฯ ได้เรียบเรียงตำราเรียน “เพลินภาษา” เพื่อนำมาใช้ในการเรียนการสอนดังกล่าว ทั้งนี้โรงเรียนฯจะได้ขยายกิจกรรมดังกล่าวให้ครอบคลุมกลุ่มสาระรายวิชาหลักและจัดทำกิจกรรมการเรียนรู้ให้กว้างขวางขึ้นทั้งในส่วนของเอกสาร ตำราและบทความที่ใช้ รวมถึงคณะครู เพื่อให้นักเรียนได้เห็นถึงประโยชน์ เป้าหมายและการประยุกต์ใช้ ของการอ่านได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยจัดดำเนินการในรูปกิจกรรมหนึ่งใน “เรียนรู้คือความสุข”
“อ่านเพื่อเรียนรู้” เป็นกิจกรรมที่มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านของนักเรียนใน 8 ด้านได้แก่
คณะครูจากกลู่มสาระวิชาแกนเป็นผู้ร่วมรับผิดชอบในกิจกรรมดังกล่าวนี้ โดยที่ในปัจจุบันโรงเรียนฯ ได้คัดสรรและจัดหาหนังสือที่เหมาะสมในการนำมาใช้ได้แล้วเป็นจำนวนกว่า 200 เล่ม การจัดกิจกรรมการอ่านที่มีความหมายจะเริ่มต้นจากการจัดหมวดหมู่รายการหนังสือที่จะนำมาใช้ แนวทางหลักในการจัดหมวดหมู่หนังสืออาจทำได้ดังนี้
จัดตามประเภท
จัดตามสาขา
ฯลฯ
จัดตาม Theme
ฯลฯ
คณะทำงานได้ร่วมประชุมระดมความคิดในการจัดทำกิจกรรมการอ่านและเขียนที่หลายหลาก และให้นักเรียนได้มีโอกาศผลิตผลงานเฉพาะของตนเอง ตลอดจนถึงการจัดกิจกรรมเกมต่างๆ เพื่อสร้างเป้าหมายการอ่านของนักเรียนให้เด่นชัด และให้นักเรียนเห็นถึงคุณค่าของการอ่าน
โรงเรียนได้จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนใน 4 ลักษณะคือ